ปี 2542 พฤษภาคม |
- |
เริ่มจัดตั้งบริษัทชื่อ “บริษัท ริชเอเซีย เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 1.00 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็ก เช่น เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนและชนิดแผ่น ผลิตภัณฑ์ท่อเหล็ก ผลิตภัณฑ์เหล็กโครงสร้างรูปตัวซี เหล็กแท่งยาว และผลิตภัณฑ์เหล็กอื่น ๆ |
ปี 2543 มกราคม |
- |
เริ่มว่าจ้างโรงงานของบริษัท สยามเฟอร์โร อินดัสทรี จำกัด* ให้ผลิตสินค้า |
กุมภาพันธ์ |
- |
เริ่มว่าจ้างโรงงานของบริษัท อินเตอร์ เมทัลทิวบ์ แอลลิแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ผลิตสินค้า |
ปี 2544 มกราคม |
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5.00 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน |
ปี 2545 มิถุนายน |
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 75.00 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและขยายการลงทุน |
ปี 2546 มิถุนายน |
- |
เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานเพื่อผลิตสินค้า และเป็นการขยายธุรกิจมาสู่การเป็นผู้ผลิตท่อเหล็ก |
|
- |
จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในบริเวณเดียวกับโรงงาน |
พฤศจิกายน |
- |
เริ่มดำเนินการผลิตท่อเหล็กและจำหน่ายภายในประเทศ |
ธันวาคม |
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 250.00 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักร และขยายกำลังการผลิต |
ปี 2547 ธันวาคม |
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 400.00 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน |
ปี 2548 สิงหาคม |
- |
ซื้อเครื่องจักรผลิตเหล็กโครงสร้างรูปตัวซี |
ปี 2549 มีนาคม |
- |
เปลี่ยนชื่อจาก “บริษัท ริชเอเซีย เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด” เป็น “บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน)” |
|
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 400.00 ล้านบาทเป็น 500.00 ล้านบาท และเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญจากหุ้นละ 100.00 บาท เป็นหุ้นละ 1.00 บาท ซึ่งทำให้จำนวนหุ้นสามัญที่จดทะเบียนไว้เพิ่มขึ้นจาก 5,000,000 หุ้นเป็น 500,000,000 หุ้น และดำเนินการแปรสภาพบริษัทเป็นมหาชน เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย |
สิงหาคม |
- |
เป็นบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2549 (เริ่มทำการซื้อขายวันที่ 31 สิงหาคม 2549 โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทต่อประชาชนจำนวน 100,000,000 หุ้น) |
ตุลาคม |
- |
ได้รับใบอนุญาตผลิตภัณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 107-2533 เหล็กโครงสร้างรูปพรรณกลวง |
พฤศจิกายน |
- |
ได้รับใบอนุญาตผลิตภัณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 1228-2537 เหล็กโครงสร้างรูปพรรณขึ้นรูปเย็บ |
|
- |
เปิดศูนย์กระจายสินค้า (พันท้ายนรสิงห์) ตั้งอยู่ที่ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร |
ปี 2550 เมษายน |
- |
ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางโปรง อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ สำหรับโครงการติดตั้งเครื่องจักรสำหรับผลิตเหล็กแปรรูป |
มิถุนายน-กรกฎาคม |
- |
ทำสัญญาซื้อขายและติดตั้งเครื่องจักรเพื่อผลิตเหล็กแปรรูป |
ธันวาคม |
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 500.00 ล้านบาทเป็น 1,000.00 ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 500.00 ล้านบาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.00 บาท มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญหุ้นละ 1.00 บาท ทำให้จำนวนหุ้นสามัญที่จดทะเบียนไว้เพิ่มขึ้นจาก 500,000,000 หุ้นเป็น 1,000,000,000 หุ้น |
|
- |
เครื่องจักรเพื่อผลิตเหล็กแปรรูปติดตั้งแล้วเสร็จและทดลองการผลิตเพื่อการพาณิชย์ |
ปี 2551 พฤษภาคม |
- |
เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นสามัญที่ตราไว้ (Par Value) ของบริษัท จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท (หนึ่งบาท) เป็นมูลค่าหุ้นละ 0.10 บาท (สิบสตางค์) ทั้งนี้ จะทำให้หุ้นสามัญของบริษัทเพิ่มขึ้นจากเดิม 1,000,000,000 หุ้น เป็น 10,000,000,000 หุ้น |
กรกฎาคม |
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,000.00 ล้านบาท เป็น 1,500.00 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 5,000,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพตามใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 1 ที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น |
ธันวาคม |
- |
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2551 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2551 มีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญบริษัท ไทย เนชั่นแนล โปรดัคท์ จำกัด (“TNP”) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จแบบแรงเหวี่ยง จำนวน 26,100,600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.01 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 100.00 ของหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วของ TNP ในราคาไม่เกิน 650.00 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขว่า บริษัทสามารถเจรจาต่อรองการเข้าลงทุนดังกล่าวเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 650.00 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินสำหรับการตกลงเข้าทำรายการในครั้งนี้ ซึ่งรายการดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2552 |
ปี 2552 พฤษภาคม |
- |
ลดทุนจดทะเบียนจาก 1,500.00 ล้านบาท เป็น 1,000.00 ล้านบาท เนื่องจากยกเลิกการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 1 จำนวน 5,000,000,000 หุ้น ที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น |
สิงหาคม |
- |
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2552 มีมติอนุมัติให้บริษัทขยายระยะเวลาการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ TNP และขยายระยะเวลาการชำระเงินจากเดิมสิ้นสุดลงวันที่ 30 มิถุนายน 2552 เป็นภายในวันที่ 30 กันยายน 2552 ซึ่งกลุ่มผู้ขายได้ยินยอมและไม่ขัดข้องในการขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไป แต่ขอสงวนสิทธิในกรณีที่กลุ่มผู้ขายสามารถเสนอขายหุ้นสามัญของ TNP ให้แก่บุคคลอื่นในราคาที่สูงกว่าราคาที่ตกลงกัน และในกรณีที่มีการยกเลิกการเข้าทำรายการ กลุ่มผู้ขายยังคงเงื่อนไขการคืนเงินมัดจำให้แก่บริษัท โดยจะชำระเงินมัดจำคืนเต็มจำนวน 200.00 ล้านบาท ภายใน 60 วันนับจากวันที่บริษัทแจ้งยกเลิกการเข้าทำรายการ โดยไม่มีดอกเบี้ย |
พฤศจิกายน |
- |
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2552 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2552 มีมติอนุมัติให้บริษัทขยายระยะเวลาการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ TNP และขยายระยะเวลาการชำระเงินจากเดิมสิ้นสุดลงวันที่ 30 กันยายน 2552 เป็นภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งกลุ่มผู้ขายได้ยินยอมและไม่ขัดข้องในการขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไป แต่ขอสงวนสิทธิในกรณีที่กลุ่มผู้ขายสามารถเสนอขายหุ้นสามัญของ TNP ให้แก่บุคคลอื่นในราคาที่สูงกว่าราคาที่ตกลงกัน และในกรณีที่มีการยกเลิกการเข้าทำรายการ กลุ่มผู้ขายยังคงเงื่อนไขการคืนเงินมัดจำให้แก่บริษัท โดยจะชำระเงินมัดจำคืนเต็มจำนวน 200.00 ล้านบาท ภายใน 60 วันนับจากวันที่บริษัทแจ้งยกเลิกการเข้าทำรายการ โดยไม่มีดอกเบี้ย |
ปี 2553 เมษายน |
- |
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2553 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2553 มีมติอนุมัติให้บริษัทขยายระยะเวลาการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ TNP และขยายระยะเวลาการชำระเงินจากเดิมสิ้นสุดลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 เป็นภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2553 ซึ่งกลุ่มผู้ขายได้ยินยอมและไม่ขัดข้องในการขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไป แต่ขอสงวนสิทธิในกรณีที่กลุ่มผู้ขายสามารถเสนอขายหุ้นสามัญของ TNP ให้แก่บุคคลอื่นในราคาที่สูงกว่าราคาที่ตกลงกัน และในกรณีที่มีการยกเลิกการเข้าทำรายการ กลุ่มผู้ขายยังคงเงื่อนไขการคืนเงินมัดจำให้แก่บริษัท โดยจะชำระเงินมัดจำคืนเต็มจำนวน 200.00 ล้านบาท ภายใน 60 วันนับจากวันที่บริษัทแจ้งยกเลิกการเข้าทำรายการ โดยไม่มีดอกเบี้ย |
พฤษภาคม |
- |
บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อและเข้าทำรายการลงทุนในบริษัท ไทย เนชั่นแนล โปรดัคท์ จำกัด โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 26,100,599,998 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.01 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 100.00 และดำเนินการจดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไทย เนชั่นแนล โปรดัคท์ จำกัด ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการเจรจาต่อรองการเข้าซื้อหุ้นสามัญดังกล่าวแล้วเสร็จเป็นจำนวนเงิน 635.00 ล้านบาท |
ธันวาคม |
- |
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2553 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2553 มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท สยาม เฟอร์โร อินดัสทรี จำกัด* จำนวน 10,954,556 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.00 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 76.88 ของทุนชำระแล้วของ FERRO* ในราคาหุ้นละ 73.00 บาท รวมมูลค่า 799.68 ล้านบาท |
ปี 2554 มีนาคม |
- |
จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นและจำนวนหุ้นของบริษัทจากเดิมมูลค่าหุ้นละ 0.10 บาท จำนวน 10,000,000,000 หุ้น เป็นมูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท จำนวน 1,000,000,000 หุ้น พร้อมทั้งแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4. ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ |
|
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 1,000.00 ล้านบาท เป็น 1,500.00 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 500,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อสำรองเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทและบริษัทย่อย และ/หรือ เพื่อใช้รองรับการขยายกิจการของบริษัทและบริษัทย่อย |
ธันวาคม |
- |
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2554 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2554 มีมติ อนุมัติการจำหน่ายหุ้นสามัญบางส่วนที่ถืออยู่ในบริษัท สยาม เฟอร์โร อินดัสทรี จำกัด (“FERRO”)* จำนวน 3,562,106 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.00 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดใน FERRO* ในราคาหุ้นละ 80.00 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวม 284.97 ล้านบาท ให้แก่ Wealth Fortune Assets Ltd จำนวน 2,849,685 หุ้น และ นายสุนทร จิตบุญทวีสุข จำนวน 712,421 หุ้น |
ปี 2555 กรกฎาคม |
- |
ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 1,500.00 ล้านบาท เป็น 1,000.00 ล้านบาท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้จำหน่ายจำนวน 500,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ก่อนที่จะทำการเพิ่มทุนใหม่ |
สิงหาคม |
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 1,000.00 ล้านบาท เป็น 4,000.00 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ซึ่งเป็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 2,000,000,000 หุ้น และสำรองเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัดที่สนับสนุนเงินกู้ยืมแก่บริษัท และ/หรือ บริษัทย่อย จำนวนไม่เกิน 1,000,000,000 หุ้น |
กันยายน |
- |
จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัทจากเดิม 1,000.00 ล้านบาท เป็น 1,002.91 ล้านบาท พร้อมทั้งแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4. ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ |
ธันวาคม |
- |
ย้ายสำนักงานใหญ่จากเลขที่ 272 ซอยวัดจันทร์นอก แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120 ไปอยู่เลขที่ 636 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 เนื่องจากสัญญาเช่าอาคารได้หมดอายุลง |
ปี 2556 พฤศจิกายน |
- |
คุณประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และคณะ ให้เกียรติเยี่ยมชมโรงงานบริษัท ไทย เนชั่นแนล โปรดัคท์ จำกัด (บริษัทย่อยของ บริษัท ริชเอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน)) ซึ่งได้ขยายธุรกิจโดยการเพิ่มผลิตภัณฑ์หมอนรถไฟคอนกรีตขึ้นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ |
ปี 2557 เมษายน |
- |
ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 4,000.00 ล้านบาท เป็น 1,002.91 ล้านบาท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้จำหน่ายจำนวน 2,997,086,774 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ก่อนที่จะทำการเพิ่มทุนใหม่ |
|
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 1,002.91 ล้านบาท เป็น 1,322.91 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 320,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพ สำหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ จำนวนไม่เกิน 20.00 ล้านดอลล่าร์สิงคโปร์ หรือในเงินสกุลอื่นใดในจำนวนเทียบเท่า ให้แก่ผู้ลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะเจาะจง (Private Placement) คือ Advance Opportunities Fund (“AO Fund”) |
มิถุนายน |
- |
ออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่ AO Fund เป็นจำนวนรวม 0.40 ล้านดอลล่าร์สิงคโปร์ คิดเป็นเงิน 10 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1.00 ดอลล่าร์สิงคโปร์ เท่ากับ 25.00 บาท) |
|
- |
จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัทจากเดิม 1,002.91 ล้านบาท เป็น 1,025.64 ล้านบาท ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว |
พฤศจิกายน |
- |
ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 1,322.91 ล้านบาท เป็น 1,025.64 ล้านบาท โดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทจำนวน 297,272,728 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ก่อนที่จะทำการเพิ่มทุนใหม่ |
|
- |
เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 1,025.64 ล้านบาท เป็นจำนวน 2,400.00 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,374,359,502 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) ในอัตราจัดสรร 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขาย 0.30 บาทต่อหุ้น และจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 4 ราย คือ (1) นายวิชัย วชิรพงศ์ (2) นายเกียรติชัย โลหชิตรานนท์ (3) นางสาวสุรัสวดี ร้อยพุทธ และ (4) นางสาวอรอุมา สุภรศิริกุล ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทที่ราคา 0.30 บาท |
ธันวาคม |
- |
จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัทจากเดิม 1,025.64 ล้านบาท เป็น 2,400.00 ล้านบาท ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว |
|
- |
ขายหุ้นในบริษัท ไทย เนชั่นแนล โปรดัคท์ จำกัด (“TNP”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท จำนวน 18,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 66.42 ของทุนจดทะเบียนของ TNP ที่ราคาหุ้นละ 30.00 บาท โดยคิดเป็นมูลค่ารวมจำนวน 540.00 ล้านบาท ให้แก่ (1) ดร. พศิน สืบทรัพย์อนันต์ (2) นายฐิติ กิตติพัฒนานนท์ และ (3) นางสาวเดือนดารา ลิ้มธนากุล |
ปี 2558 กุมภาพันธ์ |
- |
ลงทุนจัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท ริช เอเชีย เอนจิเนียริ่ง จำกัด ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 โดยถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 90.00 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วจำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งดำเนินธุรกิจจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ และเทคโนโลยี รวมถึงร่วมลงทุนในธุรกิจทางด้านสาธารณูปโภค และโครงสร้างทางด้านพื้นฐาน |
พฤษภาคม |
- |
ออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาวของบริษัท ครั้งที่ 1 จำนวน 500 ล้านบาท หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งเป็นการเสนอขายเฉพาะเจาะจงวงแคบแบบ II/HNW ภายในประเทศ ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ในวันที่ 27 - 29 เมษายน 2558 และได้รับเงินครบเต็มจำนวนเรียบร้อยแล้ว โดยหุ้นกู้มีอายุ 1 ปี 9 เดือน (วันที่ 30 เมษายน 2558 - 30 มกราคม 2560) อัตราดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี |
กรกฎาคม |
- |
ออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาวของบริษัท ครั้งที่ 2 จำนวน 500 ล้านบาท หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งเป็นการเสนอขายเฉพาะเจาะจงวงแคบแบบ II/HNW ภายในประเทศ ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ในวันที่ 13 - 15 กรกฎาคม 2558 และได้รับเงินครบเต็มจำนวนเรียบร้อยแล้ว โดยหุ้นกู้มีอายุ 2 ปี (วันที่ 16 กรกฎาคม 2558 - 16 กรกฎาคม 2560) อัตราดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี |
ตุลาคม |
- |
ออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาวของบริษัท ครั้งที่ 3 จำนวน 300 ล้านบาท หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งเป็นการเสนอขายเฉพาะเจาะจงวงแคบแบบ II/HNW ภายในประเทศ ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ในวันที่ 26 - 28 ตุลาคม 2558 และได้รับเงินจำนวน 230 ล้านบาท โดยหุ้นกู้มีอายุ 1 ปี 11 เดือน 29 วัน (วันที่ 29 ตุลาคม 2558 - 28 ตุลาคม 2560) อัตราดอกเบี้ย 6.20% ต่อปี |
ปี 2559 มกราคม |
- |
บริษัท ริช เอเชีย เอนจิเนียริ่ง จำกัด (บริษัทย่อย) ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านบาท เป็น 80 ล้านบาท โดยมีทุนที่เรียกชำระแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20.75 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 95.00 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งบริษัทย่อยจะนำเงินเพิ่มทุนที่ได้มาใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจต่อไป |
หมายเหตุ |
* |
เดิมชื่อ บริษัท สยาม เฟอร์โร อินดัสทรี จำกัด ได้เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น บริษัท ริช เอเชีย อินดัสทรี จำกัด เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2558 |